ประตูท้ายเกมของมาร์กอส อลอนโซ่ ช่วยให้เชลซีรอดการปราชัยติดต่อกันได้สำเร็จ และทำให้บอร์นมัธพลาดเก็บชัยทั้งเหย้าและเยือนจากเชลซีได้ในฤดูกาลนี้

แข้งแดนกระทิงดุรายนี้ยังเป็นผู้ยิงให้เชลซีนำก่อนในช่วงก่อนหมดครึ่งแรกด้วย บอร์นมัธพยายามรั้งสกอร์นำของตัวเองเอาไว้จนจบ

แต่เมื่อเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เปโดรยิงไปติดเซฟแล้วเข้าทางอลอนโซ่ที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา โขกยัดเข้าประตูไปได้สำเร็จ ทำให้เชลซีตามตีเสมอได้ ก่อนจะได้ลุ้นกดแฮตทริกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่โชคร้ายที่โหม่งออกข้างไปก่อน

แฟรงค์ แลมพาร์ด เลือกส่งฟิกาโย โทโมรี และเปโดรลงแทนโทนี่ รูดิเกอร์ และรอสส์ บาร์คลี่ย์ที่ลงไปในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีกก่อนหน้านี้ โดยโทโมรีกลับลงสนามเป็นเกมแรกนับตั้งแต่เอฟเอ คัพ ที่พบกับฮัลล์เมื่อเดือนก่อน

เกมบอลถ้วยจ่อคิวรอเชลซีอยู่ โดยลิเวอร์พูลจะมาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ในเกมเอฟเอ คัพ รอบที่ห้า คืนวันอังคารนี้ ส่วนเกมพรีเมียร์ลีกนัดต่อไป เชลซีจะเปิดบ้านเจอเอฟเวอร์ตัน

เชลซี (3-4-2-1) : กาบาเยโร่, อัซปิลิเกวต้า (c), คริสเตนเซ่น, โทโมรี (วิลเลี่ยน น.64), เจมส์, จอร์จินโญ่ (บาร์คลี่ย์ น.64), โควาซิช, อลอนโซ่, เมาท์, เปโดร, ชิรูด์ (บัตชูอายี่ น.71)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เกปา, รูดิเกอร์, กิลมอร์, ลอฟตัส-ชีค

ผู้ทำประตู : อลอนโซ่ น.33, น.85

ใบเหลือง : จอร์จินโญ่ น.16, คริสเตนเซ่น น.71

บอร์นมัธ (4-3-3) : แรมส์เดล, สเตซี่, เอส คุ๊ก (c), อาเก้, สมิธ, แอล คุ๊ก (กอสลิ่ง น.80), เลอร์มา, บิลลิ่ง, เฟรเซอร์, ซี วิลสัน, คิง (สตานิสลาส น.68)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โบรุค, ริโก้, ฟรานซิส, วิลสัน, โซลังกี้

ผู้ทำประตู : เลอร์มา น.54, คิง น.56

ใบเหลือง : ซี วิลสัน น.88