เก๋าหลังเกม ลุ้นไปยุโรปต่อ
Last Updated: 2020-02-18 10:31:30
เชื่อไหมครับว่าในยุคก่อนๆ ยันไปถึงสมัยป๋าหลังเข้าสู่ยุคมิลเลนเนี่ยนของ เชลซี การบุกมาชนะที่นี่ได้ถือเป็นเรื่องยากเสมอ แต่ทว่าในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นับตั้งแต่เข้ามาคุมผีนี่เป็นเกมที่ 5 แล้วนะครับ สถิติคือ ชนะ 4 เสมอ 1 ไม่เคยแพ้ซะงั้น
ผลการแข่งขันนัดนี้ส่วนตัวคาดไว้ไหม ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เมื่อมองย้อนไปจะพบว่า ยามใดที่ทีมเข้าช่วงห่วยแตกจนแทบอยากเอาหน้ามุดดิน เมื่อนั้น โอเล่ จะสามารถปลุกและนำลูกทีมลงสนามชนะคู่แข่งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเกมเล็กหรือเกมใหญ่ก็ตาม
เกมใหญ่แบบนี้ โอเล่ มักชอบเล่นหลัง 3 (ซึ่งผมก็ลืมตอนเขียนก่อนเกม) แต่ที่แปลกคือเขาเลือกใช้ เอริค ไบยี่ เล่นเป็นตัวจริงแทนที่ของ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่ไม่รู้ว่าเจ็บหรือเปล่าเพราะไม่มีชื่อยันตัวสำรอง
อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนบอลทุกคนคาดหวังก็คือ การไม่ได้เห็น เจสซี่ กุนนาร์ บีนส์การ์ด กับ อันเดรียส กุนนาร์ บีนส์การ์ด ลงสนามในฐานะตัวจริง ยิ่งรายแรกหลุดจากทีมเกมนี้ไปเลย เชื่อว่าเป็นสิ่งที่แฟนผีทั่วทุกมุมโลกอยากจะเห็น
ครึ่งแรกถือว่าเป็นเกมเปิดทั้งคู่ ผิดพลาดบ้างกันทั้ง 2 ฝ่าย เป็นเกมที่ถือว่าสปีดค่อนข้างเร็วชนิดที่ห่ยใจแทบไม่ทัน ดูเอามันส์เฉยๆ ยังสนุกเลย
แต่มันก็เป็นทาง เชลซี ที่ทำได้ดูมีน้ำมีนวลกว่า แม้ว่าทีมเราก็ไม่ได้แย่อะไรแต่มันก็ยังดูงึกๆ งักๆ บางจังหวะบ้าง
อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แทบจะสอบตกในแดนหน้าในครึ่งแรก เก็บบอลกับตัวไม่ได้ บังบอลก็พลาด แถมเสียบอลยังไม่ไล่เดินเก๊กในสนามซะงั้น
กระนั้นเขากลายเป็นคนทำประตูได้เฉย จากจังหวะเปิดของ อารอน วาน-บิสซาก้า เปิดงามๆ ให้ มาร์กซิยาล โฉบโหม่งทำประตูขึ้นนำในครึ่งแรก โยนความกดดันให้กับเจ้าบ้านไปเต็มๆ
เกมนี้ถือว่า VAR อยู่ข้างเราพอสมควรเลยนะครับ ยิ่งครึ่งหลัง เชลซี ยิงประตูตีเสมอได้แต่ก็โดนปฎิเสธจาก VAR เพราะทำฟาวล์ก่อน ลูกตีไข่แตกก็โดนจับล้ำหน้านิดเดียวอีกต่างหาก
การเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำให้ลูกตั้งแต่ทุกอย่างของเราดูน่ากลัวขึ้นเป็นกองเลยนะครับ ยิ่งลูกเตะมุมที่เป็นจุดเกิดประตูที่ 2 ของเรากลายเป็นคำถามตัวโตๆ ว่า ที่ผ่านมาพวกเราแม่งทนเห็น อันเดรียส เปเรยร่า มันเปิดเตะมุมอยู่ตลอดได้ไงวะ รวมถึง เฟร็ด ด้วย
คำตอบของเรื่องก็คือเมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดเตะมัมแล้วคนโหม่งคือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ทำประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก และเป็นจุดที่เราต้องการจากกองหลังค่าตัวแพงสุดของโลกรายนี้มาตลอดแต่กลับไม่เคยเห็นเพราะที่ผ่านมาไอ้คนเปิดบอลมันห่วยแตก แถมการซ้อมลูกเซ็ตพีชก็เหมือนไม่ได้ทำอะไร แต่การมาของ บรูโน่ มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถเฉพาะตัวเรื่องนี้อย่างชัดแจ้งนี่สิ ก็หวังว่า โอเล่ จะได้เรียนรู้จากจุดนี้บ้างนะ
เกมรับก็เหนียวแน่นมากของทีมเราวันนี้ แต่ขอชื่นชม เอริค ไบยี่ เป็นพิเศษครับเพราะเข้าสกัดแต่ละดอกนี่มันเหลือเกิน แถมมีจังหวะบล็อกสำคัญด้วย กลัวอย่างเดียวครับ คือกลัวเจ็บอีกรอบนี่สิเพราะเล่นเสี่ยงต่อร่างกายหลารอบเหลือเกิน
เกมรุกวันนี้ก็ดูดีพอสมควร ยิ่งการไม่มี 2 ลูกรักอยู่ในแดนกลางทุกอย่างมันลงตัวสุดๆ ไม่เชื่อลองหาดูแบบเต็มแมตช์ของนัดอื่นๆ แล้วมาเทียบนัดนี้ดูครับ รับรองคุณจะเห็นความต่าง
กระโดดจากอันดับ 9 ขึ้นมาอันดับ 7 ห่างอันดับ 5 อย่าง เขฟฯ ยูฯ เพียง 2 คะแนนเท่านั้น (อันนี้นับเคสที่ ซิตี้ ติด 1 ใน 4) ดังนั้นแปลว่าพื้นที่ไป UCL เรายังเปิดกว้างอยู่
เกมต่อไปคือกลางสัปดาห์เป็นเกม UEL ให้เราได้ลุ้นกันต่อ
เอาเป็นว่าตอนนี้ตั๋วไป UCL ยังเปิดกว้างทั้ง 2 ช่องทาง แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อน้ำยาของ โอเล่ อยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะทำได้เขาก็ยังไม่เหมาะที่จะได้ทำทีมต่ออยู่ดี
เพราะเชื่อสิชนะนัดนี้เดี๋ยวนัดถัดๆ ไปก็เข้าสู่ลูปเดิมๆ แต่วันนี้ขอดีใจกับชัยชนะก่อนแล้วกันนะ